เมนู

นั้นของบุรุษนั้นลอยขึ้นไป ๆ แล้วก็ตกลงที่กายของบุรุษนั้นแหละได้ยินว่า
บุรุษนั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์นี้ได้
เป็นคนฆ่าสุกรขาย อยู่ในกรุงราชคฤห์นี้เอง ฯ ล ฯ.
จบอสิสูตร

อรรถกถาอสิสูตรที่ 5



ในเรื่องสัตว์มีขนเป็นดาบ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
คนผู้ฆ่าสุกรนั้น เอาดาบฆ่าสุกรที่เลี้ยงดูด้วยผักตลอดกาลนาน
เลี้ยงชีพตลอดกาลนาน. ภาวะที่เขาเงื้อดาบนั่นแล ได้ปรากฏเป็นนิมิต
เพราะนั้น เขาจึงเกิดเป็นอสิโลมเปรต.
จบอรรถกถาอสิสูตรที่ 5

6. สัตติสูตร



ว่าด้วยบุรุษมีขนเป็นหอก



[645] ฯ ล ฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลง
มาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นบุรุษมีขนเป็นหอกลอยอยู่ในเวหาส หอก
เหล่านั้นของบุรุษนั้นลอยขึ้นไป ๆ แล้วก็ตกลงที่กายของบุรุษนั้นเอง ได้
ยินว่า บุรุษนั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์
นี้ได้เป็นคนฆ่าเนื้อขาย อยู่ในกรุงราชคฤห์นี้เอง ฯลฯ.
จบสัตติสูตรที่ 6

อรรถกถาสัตติสูตรที่ 6



ในเรื่องสัตว์มีขนเป็นหอก มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
คนผู้ฆ่าเนื้อนั้น พาเนื้อตัวหนึ่ง [สำหรับล่อเนื้อ] และถือหอก

ไปป่า เอาหอกแทงพวกเนื้อที่มายืนอยู่ใกล้ ๆ เนื้อตัวนั้นให้ตาย. ภาวะ
ที่เขาเอาหอกแทงเนื้อนั่นแล ได้ปรากฏเป็นนิมิต เพราะฉะนั้น เขาจึง
เกิดเป็นสัตติโลมเปรต.
จบอรรถกถาสัตติสูตรที่ 6

7. อุสุสูตร



ว่าด้วยบุรุษมีขนเป็นลูกธนู



[ 646 ] ฯลฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลง
มาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นบุรุษมีขนเป็นลูกธนูลอยอยู่ในเวหาส ลูกธนู
เหล่านั้นของบุรุษนั้นลอยขึ้นไป ๆ แล้วก็ตกลงที่กายของบุรุษนั้นเอง ได้
ยินว่า บุรุษนั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯ ล ฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์นี้
ได้เป็นเพชฌฆาต อยู่ในกรุงราชคฤห์นี้เอง ฯ ล ฯ.
จบอุสุสูตรที่ 7

อรรถกถาอุสุสูตรที่ 7



เรื่องสัตว์มีขนเป็นลูกธนูมีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า การณิโก ได้แก่ บุรุษผู้เบียดเบียนคนที่ผิดต่อพระราชา
ด้วยเหตุมากมาย ในที่สุดเอาลูกธนูแทงให้ตาย. ได้ยินว่า บุรุษนั้นแทง
เพราะรู้ว่า คนที่ถูกแทงในที่โน้นจะตาย. เมื่อเขาเลี้ยงชีพด้วยอาการ
อย่างนี้แล้วเกิดในนรก แต่นั้นด้วยเศษวิบาก ในเวลาที่เขาเกิดในนรกนั้น